บริษัท เอเซียไฟเบอร์ จำกัด (มหาชน) SET
AFC 5.20
หุ้น AFC ทำธุรกิจอะไร? ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไนล่อนทั้งชนิดเม็ดและเส้นใย เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปั่นด้าย ทอผ้าและถักผ้า มีผลิตภัณฑ์และบริการหลัก 5 ประเภท 1. เม็ดไนล่อน (Nylon Chip) ใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมสิ่งทอและแหอวน 2. เส้นใยสังเคราะห์ (Filament Yarn) ใช้ในการทอผ้า และผลิตด้ายยืด 3. เส้นด้ายยืด (Textured Yarn) ใช้ผลิตผ้าถักและถุงเท้า 4. ผ้าย้อมและตกแต่ง (Fabric) ทอขึ้นจากเส้นใยสังเคราะห์และผ่านการฟอกย้อมและแต่งสำเร็จ 5. การบริการย้อมและตกแต่งผ้า (Service) ให้บริการแก่โรงงานอื่น
Sector: FASHION - แฟชั่น
Address: อาคารวอลล์สตรีททาวเวอร์ ชั้น 27, 33/133-136 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
Website: http://www.asiafiber.com
Tel: 0-2632-7071-85
Email:
หุ้น AFC น่าซื้อไหม? : AFC มีส่วนเผื่อความปลอดภัย (MOS%) เท่าไหร่?
| Average (Min/MAX) |
Last Update
|
MOS% | |
|---|---|---|---|
| P/E |
39.64 (22.03 / 61.97) |
5.10 EPS: 1.02 |
87.13% |
| P/BV |
0.37 0.35 / 0.39 |
0.20 | 45.21% |
| EV/EBITDA |
25.40 11.68 / 47.48 |
0.00% | |
| P/S |
0.41 0.30 / 0.54 |
0.30 | 27.33% |
| AFC | P/E | P/BV | EV/EBITDA | P/S |
|---|---|---|---|---|
| 2013 | 22.03 | 0.36 | 22.26 | 0.32 |
| 2014 | 34.60 | 0.35 | 20.16 | 0.30 |
| 2015 | 0.00 | 0.56 | -13.39 | 0.66 |
| 2016 | 0.00 | 0.40 | -48.84 | 0.54 |
| 2017 | 39.96 | 0.39 | 47.48 | 0.49 |
| 2018 | 0.00 | 0.31 | 264.87 | 0.38 |
| 2019 | 0.00 | 0.31 | -25.61 | 0.42 |
| 2020 | 0.00 | 0.25 | -11.75 | 0.49 |
| 2021 | 61.97 | 0.36 | 11.68 | 0.54 |
| Q3/2023 | -11.02 | 0.30 |
Margin of Safety (MOS) คืออะไร?
Margin of Safety (MOS) หรือ ส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย หมายถึง ส่วนต่างที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ตลาดและนักลงทุนให้ค่าต่อหุ้นนั้นๆ เช่น หุ้นตัวนึงมีค่า Max P/E อยู่ที่ 30 และ Min P/E อยู่ที่ 10 ค่าเฉลี่ยของ P/E ที่ตลาดและนักลงทุนให้ค่าจะอยู่ที่ P/E 20 การคำนวณ MOS P/E ของเราคือ การคำนวนส่วนต่างจากค่าเฉลี่ยของ P/E ในปัจจุบัน หาก P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 20 เท่า จะมีค่า MOS% เป็นบวก แสดงให้เห็นถึงราคาหุ้นมีค่า P/E ต่ำกว่าราคาเฉลี่ย และแสดงให้เห็นถึงหุ้นมีค่า MOS% หรือส่วนเผื่อของความปลอดภัยในการที่จะขาดทุนจากการลงทุน
คำศัพท์ทางการเงิน
- Revenue คือ รายได้รวมของบริษัท เป็นจำนวนเงิน
- Net Profit คือ กำไรสุทธิของบริษัท เป็นจำนวนเงิน
- Gross Profit Margin (GPM) คือ อัตราส่วนกำไรข้างต้น ค่า GPM ที่สูง แสดงให้เห็นถึงการควบคุมต้นทุนได้ดีกว่า GPM ที่ต่ำกว่า แต่ควรเปรียบเทียบกับธุรกิจประเภทเดียวกัน เพราะต้นทุนจะใกล้เคียงกัน
- SG&A to Sale (SG&A) คือ อัตราต้นทุนของการขายสินค้า ว่ามีต้นทุนการขายกี่ % - SG&A ต่ำ แสดงถึงต้นทุนการขายที่ต่ำ กำไรจากการขายจะเยอะขึ้น
- Net Profit Margin (NPM) คือ กำไรสุทธิของบริษัท (Net Profit) หารด้วยยอดขาย (Sales) เพื่อหาอัตราความสามารถของการทำกำไรของบริษัทและการจัดการต้นทุนการขายเป็น % เรียกสั้นๆว่า "Margin" หากค่า Net Profit Margin (NPM) สูง แสดงว่าบริษัทสามารถทำกำไรจากการขายได้ดีกว่าบริษัทที่มี Net Profit Margin (NPM) ต่ำกว่า
- Price to Earning Ratio (P/E) คือ ค่าการเปรียบเทียบราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ต่อกำไรสุทธิของหุ้นที่บริษัททำได้ต่อปี P/E เปลี่ยนแปลงไปตามกำไรต่อหุ้นของบริษัท และราคาซื้อขายหุ้น
- Price to Book Value Ratio (P/BV) คือ ค่าการเปรียบเทียบราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ต่อมูลค่าทางบัญชีของบริษัท
- Return on Asset (ROA) คือ อัตราส่วนที่บริษัทสามารถทำกำไรได้เป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของทรัพย์สินของบริษัททั้งหมดที่มี
- Return on Equity (ROE) คือ อัตราส่วนกำไรสุทธิต่อผู้ถือหุ้นเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ ROE อาจที่มีค่าสูง อาจจะไม่ได้มาจากกำไรสุทธิ แต่อาจมาจากส่วนของผู้ถือหุ้น
- Earnings per Share (EPS) คือ อัตราส่วนที่แสดงถึงการทำกำไรของบริษัท หรือ "กำไรต่อหุ้น" หน่วยเป็นจำนวนเงิน เช่น กำไรต่อหุ้น 1.00 บาท
- Enterprise Multiple (Enterprise Value Per EBITDA) หรือ EV/EBITDA คือ ค่าที่แสดงถึงความถูกแพงของกิจการ มักใช้ควบคู่กับ P/E และเทียบกับอุตสาหกรรมประเภทเดียวกัน เนื่องจากมีลักษณะต้นทุนใกล้เคียงกัน
- Price to Sales Ratio (P/S Ratio) หรือ PSR คือ อัตราส่วนยอดขายรวมหารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท หรือ อัตาาส่วนยอดขายต่อหุ้น ค่า P/S ที่ต่ำยิ่งดี
- Debt to Equity Ratio (D/E) คือ อัตราส่วนของหนี้สินต่อผู้ถือหุ้น D/E ที่สูง แสดงถึงบริษัทเป็นหนี้สูง และมีภาระชำระหนี้สินและดอกเบี้ย
คำเตือน!
การคำนวณหามูลค่าที่เหมาะสมของหุ้น ประเมินจากผลการดำเนินงานย้อนหลังของบริษัท ด้วยข้อมูลงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่ได้มีการเปิดเผยออกสู่สาธารณะผ่านทางตลาดหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นการคำนวณแบบ Backtesting ซึ่งแสดงให้เห็นข้อมูลของหุ้นในอดีต ไม่สามารถการันตีถึงคุณภาพธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอนาคตได้